Newsletter subscribe

Agriculture, ทางเลือกในการกำจัดวัชพืช

ทางเลือกในการกำจัดวัชพืชโดยไม่ใช้สารเคมี#1 การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อน (Thermal Weed Control)

Posted: 06/03/2021 at 09:07   /   by   /   comments (0)

การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อน (Thermal Weed Control)

การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อนไม่ได้หมายถึงการเผาวัชพืชให้เป็นเถ้า เพียงแค่ให้ความร้อนแก่วัชพืชถึง 70ºC ประมาณหนึ่งวินาที ที่อุณหภูมินี้เซลล์พืชจะแตกออกและโปรตีนของพืชจะถูกทำลาย จากนั้นวัชพืชก็เหี่ยวเฉาและตาย เวลาที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมวัชพืชด้วยความร้อนคือในช่วงแรกของการเจริญเติบโต การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อนมีเพียงวัชพืชเท่านั้นที่ถูกทำลาย 

การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อนส่วนใหญ่มีผลต่อส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินของพืช แต่วัชพืชบางชนิด (เช่นวัชพืชยืนต้น) อาจงอกขึ้นมาใหม่ จำเป็นต้องใช้การควบคุมวัชพืชด้วยความร้อนซ้ำๆ

การกำจัดวัชพืชด้วยความร้อนได้แก่ เปลวไฟ ไอน้ำ โฟมร้อน และน้ำร้อน

 

เปลวไฟ (Flame)

การกำจัดวัชพืชด้วยไฟเป็นการใช้เปลวไฟเพื่อฆ่าหรือทำลายวัชพืช เครื่องเผาวัชพืชหรือเครื่องพ่นไฟเป็นเครื่องเป่าลมที่ดัดแปลงมาเพื่อส่งเปลวไฟไปยังระดับพื้นดิน โดยทั่วไปใช้โพรเพนเป็นเชื้อเพลิง ทันทีที่พืชสัมผัสกับเปลวไฟ เซลล์ของพืชจะแตกออกและพืชก็ตายอย่างรวดเร็ว การกำจัดวัชพืชด้วยเปลวไฟมีประสิทธิภาพในการกำจัดวัชพืชใบกว้างและวัชพืชที่มีลักษณะคล้ายหญ้า แม้ว่าการเผาจะไม่สามารถฆ่าวัชพืชยืนต้นได้ในครั้งเดียว แต่การเผาซ้ำสามารถใช้เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและทำให้คาร์โบไฮเดรตสำรองของวัชพืชที่เป็นไม้ยืนต้นหมดไป

ข้อดี

ควบคุมวัชพืชได้หลากหลาย

ควบคุมวัชพืชที่ทนต่อสารกำจัดวัชพืช

การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในดินมีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในดิน

ก๊าซที่เผาไหม้ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อน้ำหรือดิน หรือเสี่ยงต่อการเกิดละอองลอย ไม่มีการผลิตก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของฝนกรด

ข้อเสีย

การเผาไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างวัชพืชและพืชที่ต้องการ

อันตรายจากไฟไหม้ ห้ามใช้ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้

ความต้องการพลังงานสูง

 

ไอน้ำ (Steam)

   

การกำจัดวัชพืชด้วยไอน้ำเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการจัดการวัชพืช เป็นเทคนิคการสัมผัสทางใบซึ่งใช้อุณหภูมิประมาณ 100 0C ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งทำให้อุณหภูมิของน้ำในเซลล์พืชสูงขึ้นและทำให้เยื่อหุ้มเซลล์แตก ดังนั้นวัชพืชจะขาดน้ำและตายในที่สุด 

ไม้ยืนต้นอายุน้อยส่วนใหญ่สามารถฆ่าได้ด้วยการใช้ไอน้ำเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามไม้ยืนต้นที่มีอายุมากมักต้องการการใช้งานหลายอย่าง แม้ว่าไอน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนใต้ดินของวัชพืช แต่การใช้งานซ้ำๆ จะฆ่าส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน ซึ่งเป็นการจำกัดการสังเคราะห์แสง และในที่สุดก็จะทำให้ปริมาณคาร์โบไฮเดรตสำรองของพืชหมดไปในที่สุด

ข้อดี

ควบคุมวัชพืชได้หลากหลาย

ควบคุมวัชพืชที่ทนต่อสารกำจัดวัชพืช

มีความแม่นยำในการใช้งานสูง

ไม่มีกิจกรรมตกค้างหรือเสี่ยงต่อการเกิดละอองลอย ไม่มีความเสี่ยงจากไฟไหม้

ข้อเสีย

ไวต่อสภาพอากาศ

ต้องการน้ำและพลังงานจำนวนมากในการผลิตไอน้ำ

เงินลงทุนเริ่มต้นสูง

 

โฟมร้อน (Hot Foam)

การใช้โฟมร้อนเป็นเทคนิคการควบคุมวัชพืชที่เกิดขึ้นใหม่ วิธีการปลอดสารพิษนี้สามารถใช้ในการควบคุมวัชพืชหลายชนิดในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น พื้นผิวแข็ง พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ปลูกพืช นอกจากนี้ยังสามารถใช้โฟมร้อนเพื่อทำความสะอาดพื้นผิวของตะไคร่น้ำ สาหร่าย สิ่งสกปรก

การใช้โฟมร้อนเป็นการควบคุมวัชพืชที่ออกแบบมาเพื่อฆ่าพืชที่ไม่ต้องการผ่านความร้อน ความร้อนจะถูกส่งผ่านน้ำร้อนที่หุ้มด้วยโฟมธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่ทำจากน้ำมันและน้ำตาลจากพืชธรรมชาติ โฟมทำหน้าที่เป็นผ้าห่มกันความร้อน ป้องกันการกระจายความร้อนอย่างรวดเร็ว ทำให้พืชร้อนนานพอที่จะฆ่ามันได้ ในโฟมมีสารช่วยในการสลายผนังเซลล์ของวัชพืชซึ่งทำให้พืชขาดน้ำและฆ่ามันได้เร็วขึ้น 

ข้อดี

ควบคุมวัชพืชได้หลากหลาย

ควบคุมวัชพืชที่ทนต่อสารกำจัดวัชพืช

ใช้น้ำน้อยกว่า

มีความแม่นยำในการใช้งานสูง

ไม่มีกิจกรรมตกค้างหรือเสี่ยงต่อการเกิดละอองลอย

ปลอดภัยสำหรับการใช้งานโดยไม่จำกัด สามารถใช้ได้ในบริเวณที่มีเด็ก สัตว์เลี้ยง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข้อเสีย

ความต้องการพลังงานสูง เงินลงทุนเริ่มต้นสูง

 

น้ำร้อน (Hot water)

การใช้น้ำเดือดกับวัชพืชเป็นหนึ่งในวิธีการที่ประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สามารถใช้เพื่อกำจัดวัชพืชโดยไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงเลย น้ำร้อนสามารถถ่ายเทพลังงานได้มากกว่าไอน้ำถึง 23-27 เท่า น้ำร้อนยังสามารถเดินทางลึกลงไปในดินได้อย่างรวดเร็วซึ่งสามารถช่วยกำจัดรากแก้ว วิธีนี้สามารถช่วยฆ่าวัชพืชที่รุกรานได้อย่างถาวรและช่วยในการควบคุมวัชพืชในระยะยาว

การใช้น้ำเดือดมีราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพในการทำลายวัชพืช น้ำร้อนทำงานได้ดีกับวัชพืชใบกว้างมากกว่าไม้ยืนต้น น้ำร้อนจะละลายสารเคลือบขี้ผึ้งบนใบวัชพืชหรือสลายโครงสร้างเซลล์ของพืช พืชจะไม่สามารถกักเก็บความชื้นและคายน้ำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือสองสามวัน วัชพืชที่แข็งแรงบางชนิดอาจต้องใช้น้ำเดือดมากกว่าหนึ่งครั้ง

อะไรคือข้อเสียของเทคโนโลยีนี้? วิธีใช้น้ำเดือดเพื่อควบคุมวัชพืชสามารถฆ่าพืชที่มีค่าของเราได้หากใช้ไม่ถูกต้อง และน้ำร้อนจะไปฆ่าจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน

 

 

Sam Hunt – Break Up In A Small Town