Newsletter subscribe

For Thailand, เจ้าพระยา

แม่น้ำเจ้าพระยา หนทางแก้อีสานแล้ง#4 ระบบจ่ายน้ำประปา (Water Distribution System)

Posted: 07/08/2020 at 13:42   /   by   /   comments (0)

ระบบจ่ายน้ำประปา (water distribution system) หมายถึง ระบบการจ่ายน้ำเป็นเครือข่ายของท่อส่งน้ำไปยังชุมชนหรือสถานประกอบการหรือจุดใช้น้ำต่างๆ

ระบบจ่ายน้ำประปาที่ดีควรตอบสนองสิ่งต่อไปนี้:

(1) แรงดันน้ำเพียงพอสำหรับอัตราการไหลที่เฉพาะเจาะจง (แรงดันที่ก๊อกน้ำของผู้บริโภคควรมากพอที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ)

(2) แรงดันควรมีมากพอที่จะตอบสนองความต้องการในการดับเพลิง

(3) ในเวลาเดียวกันแรงกดดันไม่ควรมากเกินไป เพราะการพัฒนาหัวแรงดันจะพิจารณาค่าใช้จ่ายที่สำคัญ และเมื่อความดันเพิ่มการรั่วไหลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

(4) ควรรักษาความสะอาดของน้ำที่จ่ายทางท่อ สิ่งนี้จำเป็นต้องมีระบบกระจายน้ำที่ปิดสนิท

(5) การบำรุงรักษาระบบจ่ายน้ำควรทำได้ง่ายและประหยัด

(6) หากช่วงของท่อใดท่อหนึ่งแตกและต้องปิดน้ำเพื่อการซ่อมแซม ระบบจ่ายน้ำที่ดีควรยังสามารถให้น้ำแก่ประชากรที่อาศัยอยู่บริเวณด้านล่างของท่อ

(7) ในระหว่างการซ่อมแซม ไม่ควรเกิดการกีดขวางการจราจร กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไม่ควรวางท่อใต้ทางหลวง แต่ควรวางแนวให้อยู่ต่ำกว่าทางเดินเท้า

(8) ควรจะสามารถจัดหาปริมาณน้ำที่จำเป็นสำหรับใช้ในการดับเพลิง

 

 

Oh Wonder – Lose It

 

 

ชนิดของระบบจ่ายน้ำประปามี 4 ระบบ ดังนี้

 

 

1. Dead-End or Tree System

 

ในระบบจ่ายน้ำปลายปิดตาย หรือ ระบบต้นไม้ (Dead end or tree system) เป็นระบบจ่ายน้ำที่ปลายท่อถูกปิดตาย ดังนั้นน้ำจึงไหลอย่างไม่ต่อเนื่องในระบบท่อนี้ ประกอบด้วยท่อจ่ายน้ำสายเมนหลักหนึ่งท่อ (main pipe) จะถูกวางผ่านใจกลางเมืองหรือพื้นที่ที่มีประชากร และแยกเป็นสายเมนย่อย (sub-main) ออกไปทั้งสองด้าน ทุกจุดเริ่มต้นของสายเมนย่อยจะมีวาล์วตัด (cut-off valve) เพื่อควบคุมการไหลระหว่างการซ่อมแซม เป็นต้น จากนั้นสายเมนย่อยยังแยกออกเป็นกิ่งแขนงหลายสาย (branch) ที่ให้บริการการเชื่อมต่อ แผนภาพระบบจ่ายน้ำนี้จะมีลักษณะคล้ายต้นไม้ที่มีกิ่งก้านแตกแขนงออกไปจากลำต้น ระบบประเภทนี้ส่วนใหญ่ใช้กับเมืองในสมัยก่อนซึ่งสร้างขึ้นโดยไม่มีการวางแผนใดๆ ปัจจุบันระบบนี้ไม่เป็นที่ต้องการ แต่ระบบนี้ยังเป็นที่นิยมใช้อยู่อย่างแพร่หลายในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อยู่อาศัย 

 

ข้อดีของระบบ Dead End:

(1) การปล่อยความดันและให้อัตราการไหลของน้ำในแต่ละท่อสามารถกำหนดได้ ทำให้การคำนวณการออกแบบง่ายและสะดวก

(2) เส้นผ่านศูนย์กลางของ main pipe, sub-mains และ branches สามารถออกแบบตามความต้องการของประชากร ดังนั้นต้นทุนของโครงการจะลดลง

(3) การเชื่อมต่อทุกจุดเริ่มต้นที่ main pipe ต้องการจำนวน cut-off valve น้อยกว่าระบบอื่น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบำรุงรักษาต่ำ

(4) การวางท่อเป็นเรื่องง่าย

(5) เหมาะสำหรับเมืองที่มีการขยายตัวบ่อย

 

ข้อเสียของระบบ Dead End:

(1) การมี Dead end จำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการหยุดนิ่งของน้ำในท่อ เกิดการตกตะกอนและสะสมของสิ่งสกปรกที่บริเวณ Dead end และเกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

(2) เมื่อต้องทำการซ่อมในสายใดๆ การเชื่อมต่อบริการในสายย่อยที่เลยกว่าจุดซ่อมจะไม่มีน้ำจนกว่าจะทำการซ่อมแซมเสร็จสิ้น

(3) ความดันน้ำในท่อไม่คงที่และน้อยมากในส่วนที่อยู่ระยะไกล

(4) ไม่สามารถปล่อยน้ำเพื่อการดับเพลิงได้

 

 

The Chainsmokers – Hope ft. Winona Oak

 

 

Grid Iron System

ระบบจ่ายน้ำแบบตะแกรงเหล็ก (Grid iron system) ประกอบด้วยท่อจ่ายน้ำสายเมนหลักหนึ่งท่อ (main pipe) ไหลผ่านศูนย์กลางของพื้นที่ และสายเมนย่อย (sub-main) แยกออกจากสายเมนหลักทั้งสองข้างในแนวตั้งฉาก จากนั้นกิ่งแขนง (branch) แยกออกจากสายเมนย่อยทั้งสองข้างในแนวตั้งฉากและเชื่อมต่อกันด้วย ลักษณะเด่นของระบบนี้คือ ท่อทั้งหมดเชื่อมต่อกันหมดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และไม่มีปลายตัน (dead end) ดังนั้นน้ำจึงไหลอย่างต่อเนื่องและสามารถเข้าถึงจุดที่กำหนดได้จากหลายทิศทาง ซึ่งช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำเป็นต้องมีการซ่อมแซม ระบบจ่ายน้ำแบบตะแกรงเหล็กนี้เหมาะสำหรับเมืองที่มีการวางผังเมืองอย่างดี

 

ข้อดีของระบบ Grid iron:

(1) ไม่มีทางตันหรือ Dead end ทำให้น้ำไหลอย่างต่อเนื่อง ไม่เกิดตะกอนทับถม

(2) ในกรณีที่มีการเสียหายในบางส่วน สามารถหาน้ำได้จากทิศทางอื่น

(3) งานซ่อมสามารถทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปิดวาล์วตัด (cut-off valve) ในแนวท่อนั้น ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รายอื่น

(4) สามารถปล่อยน้ำเพื่อการดับเพลิงได้

(5) Head loss เกิดน้อยที่สุด เนื่องจากระบบนี้มีการเชื่อมต่อระหว่างท่อ

หมายเหตุ: การสูญเสียของการไหลในท่อ (Head loss) เกิดจากความเสียดทานของน้ำกับผิวสัมผัสภายในท่อ

 

ข้อเสียของระบบ Grid iron:

(1) ท่อที่ใช้ในระบบนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่และมีความยาวท่อมาก เนื่องจากมีน้ำไหลเวียนมาจากทุกทิศทาง

(2) การออกแบบทำได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถระบุปริมาณการไหลของน้ำ อัตราการไหล หรือแรงดันน้ำที่ถูกต้องในท่อหนึ่งท่อใดโดยเฉพาะได้

(3) ไม่สามารถคำนวณขนาดของท่อที่แน่นอนได้ เนื่องจากมีจำนวนวาล์วตัด (cut-off valve) ทุกสาขา

(4) ในระบบนี้ ต้องการจำนวนวาล์วตัดมากขึ้น

(5) ค่าใช้จ่ายในการวางท่อสูงขึ้น

 

 

Beyoncé – Hold Up

 

 

Ring or Circular System

ระบบวงแหวน (Ring system) หรือระบบวงกลม (Circular system) ซึ่งมีท่อจ่ายน้ำสายเมนหลัก (main pipe) วิ่งไปรอบเมืองเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมหรือวงกลม สายเมนย่อย (sub-main) จะถูกวางไว้ระหว่างสายเมนหลักในแนวตั้งฉากและวิ่งเข้าไปที่ด้านในของพื้นที่และเชื่อมต่อกันด้วย ดังนั้นทุกถนนในพื้นที่กระจายน้ำจะได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ระบบนี้เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเมืองที่มีการจัดวางผังถนนอย่างดี

ข้อดีและข้อเสียของระบบนี้เหมือนกับระบบ Grid iron อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้จะมีน้ำปริมาณมากขึ้นและความยาวของระบบจ่ายน้ำจะมากกว่า

 

Radial System

ระบบรัศมีแฉก (Radial system) เป็นการย้อนกลับของระบบวงแหวน (Ring system) หรือระบบวงกลม (Circular system) โดยมีน้ำไหลไปออกทางด้านนอกแทนที่จะไหลเข้าไปข้างใน ในระบบนี้พื้นที่จ่ายน้ำทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นโซนการกระจายขนาดเล็กจำนวนหนึ่ง แต่ละโซนจะมีแหล่งจ่ายน้ำอยู่ตรงกลาง อาจเป็นอ่างเก็บน้ำ (Distribution reservoir) หรือ ถังเก็บน้ำเหนือศีรษะ

น้ำที่ได้จากท่อจ่ายน้ำสายเมนหลัก (main pipe) จะถูกปั้มเข้าไปในอ่างเก็บน้ำที่อยู่ใจกลางของแต่ละโซน จากนั้นน้ำในอ่างเก็บน้ำจะถูกจ่ายไปยังจุดต่างๆ ผ่านสายเมนย่อย (sub-main) และกิ่งแขนง (branch) ไหลออกไปทางด้านนอกเป็นเส้นรัศมีสั้นๆ 8 แฉก ทำให้การจ่ายน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก การจัดวางท่อระบบนี้เหมาะที่สุดสำหรับเมืองที่มีแนวถนนเป็นรัศมีแฉก ท่อจะวางตามถนนที่มีแหล่งจ่ายน้ำอยู่ตรงกลาง

 

ข้อดีของระบบ Ring:

(1) การจัดวางระบบจ่ายน้ำนี้ มีการกระจายแรงดันสูงและให้การกระจายน้ำที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก การคำนวณสำหรับการออกแบบขนาดท่อก็ทำได้ง่ายเช่นกัน

(2) ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือไฟไหม้ในพื้นที่ซึ่งอยู่ไกลจากท่อจ่ายน้ำสายเมนหลัก ท่อจ่ายน้ำสายเมนย่อยและกิ่งแขนงบริเวณใกล้เคียงที่เกิดไฟไหม้มีแรงดันสูงมากเพียงพอสำหรับใช้ในการควบคุมเพลิง

 

ข้อเสียของระบบ Ring:

เนื่องจากทุกโซนจำเป็นต้องใช้อ่างเก็บน้ำแยกต่างหาก จึงจำเป็นต้องใช้จำนวนอ่างเก็บน้ำมาก ระบบจึงมีค่าใช้จ่ายสูง

 

 

R3HAB x Conor Maynard – Hold On Tight