About World, Humanity
มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์#3 โปรแกรมด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย
โปรแกรมด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย
ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกชีวิตมีคุณค่าเท่าเทียมกัน มูลนิธิบิลล์ & เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ภายใต้การกำกับดูแลของ บิลล์และเมลินดา เกตส์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์ มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกให้มีสุขภาพและมีชีวิตที่ดีขึ้น ในประเทศกำลังพัฒนามูลนิธิจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสุขภาพของผู้คนและให้โอกาสพวกเขายกระดับตนเองให้พ้นจากความหิวโหยและความยากจนข้นแค้น
มูลนิธิบิล & เมลินดาเกตส์ ได้เปิดตัวโปรแกรมด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย (The Water, Sanitation and Hygiene (WASH) Program) มาตั้งแต่ปี 2005 ในลักษณะ “การเรียนรู้การริเริ่ม (Learning Initiative)” ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การทดลอง และการดำเนินงานภาคสนาม ในปี 2010 WASH ได้กลายเป็นโปรแกรมที่มีการดำเนินการแบบเต็มรูปแบบ ภายใต้แผนกพัฒนาโลก (Global Development Division) ของมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธิได้ตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับการให้บริการด้านสุขาภิบาลอย่างยั่งยืนแก่คนยากจน การพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อที่จะปรับปรุงการสุขาภิบาลขั้นพื้นฐาน เช่น ห้องน้ำที่ไม่ต้องใช้น้ำและไม่ต้องเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำ และวิธีที่ถูกสุขอนามัยในการรีไซเคิลขยะสิ่งปฎิกูล ทั้งนี้เป็นเพราะมูลนิธิเห็นว่าภาคการสุขาภิบาลยังได้รับความสนใจจากผู้บริจาคและจากรัฐบาลน้อยกว่าด้านอื่นๆ และเนื่องจากมูลนิธิเชื่อว่ามันมีศักยภาพที่จะสร้างความแตกต่างที่แท้จริงผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของมูลนิธิ
การขาดสุขอนามัยในประเทศกำลังพัฒนา เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กกว่า 1,200 คนที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบต่อวัน มากกว่าโรคเอดส์โรคหัดและวัณโรครวมกัน การแก้ปัญหาด้านสุขอนามัยในประเทศกำลังพัฒนา จะต้องใช้นวัตกรรมที่ก้าวล้ำในด้านเทคโนโลยี ต้องมีค่าใช้จ่ายต่ำ ง่ายต่อการติดตั้ง ใช้งาน และบำรุงรักษา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนในประเทศยากจนต้องการ การเร่งความเร็วในการพัฒนาระบบสุขาภิบาลและเทคโนโลยีที่ไม่ใช้น้ำและกำจัดเสียอย่างปลอดภัย คือ สิ่งที่มูลนิธิให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก มูลนิธิเชื่อว่าเราสามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย ครั้งใหญ่ที่สุด
Jimmie Allen, Noah Cyrus – “This Is Us”
มูลนิธิบิล & เมลินดา เกตส์ ลงทุนในธุรกิจห้องสุขาแห่งอนาคต
Bill Gates talks toilets (Youtube)
บิล เกตส์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีประชากรกว่า 2,300 ล้านคนทั่วโลก ต้องพบเผชิญกับสุขอนามัยที่ไม่ดี ใช้ห้องสุขาที่มีปัญหาเรื่องท่อระบายน้ำและการกำจัดของเสีย บางแห่งส่งของเสียทิ้งลงในท่อระบายน้ำ บางแห่งไม่ได้เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำทิ้ง น้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดอาจส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบไปปนเปื้อนน้ำใต้ดินรอบๆบ้านของผู้คน บางแห่งมีการใช้ส้วมหลุม และผู้คนจัดการของเสียด้วยตนเองโดยนำไปทิ้งลงในทุ่งใกล้เคียงหรือแหล่งน้ำ ส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆมีโอกาสปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ก่อให้เกิดโรคเช่นท้องเสียและอหิวาตกโรคซึ่งนำไปสู่ความตายจำนวนไม่น้อยเลย ถ้าเราสามารถพัฒนาวิธีที่ปลอดภัยและราคาไม่แพงในการกำจัดของเสียของมนุษย์ เช่นห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะซึ่งสามารถกำจัดของเสียของมนุษย์ได้เองโดยไม่ต้องใช้น้ำ เราจะสามารถป้องกันการเสียชีวิตของเด็กๆได้เป็นจำนวนมากและช่วยให้เด็กๆเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง
เพื่อแก้ปัญหานี้ มูลนิธิบิล & เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ริเริ่มโครงการ “Reinvent the Toilet Challenge” มาตั้งแต่ปี 2011 โดยทางมูลนิธิได้ให้ทุนสนับสนุน 200 ล้านดอลลาร์แก่มหาวิทยาลัยทั่วโลก (รวมทั้งสถาบัน AIT ในประเทศไทย) เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบกำจัดของเสียได้ในตัวโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับระบบน้ำประปาหรือท่อระบายน้ำทิ้ง
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 มูลนิธิบิล & เมลินดา เกตส์ ร่วมกับสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีน (CCPIT) และสมาคมหอการค้าต่างประเทศของจีน (CCOIC) จัดงานเอ็กซ์โปห้องสุขานวัตกรรมใหม่ “Reinvented Toilet Expo” ที่กรุงปักกิ่ง งานแสดงสินค้านี้จัดเป็นครั้งแรก เป้าหมายของงานคือเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ด้านสุขอนามัยที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก
shutterstock.com
บริษัทต่างๆจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่งานเพื่อแสดงเทคโนโลยีการสุขาภิบาลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ละผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าเชื้อโรคและแปลงของเสียเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ เช่น น้ำสะอาดและปุ๋ย ทั้งหมดไม่มีการเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำทิ้ง บริษัทจากประเทศจีน (Clear, CRRC, EcoSan), สหรัฐอเมริกา (Sedron Technologies), อินเดีย (Eram Scientific, Ankur Scientific, Tide Technocrats) และประเทศไทย (SCG Chemicals) ได้ประกาศความพร้อมของห้องสุขานวัตกรรมใหม่ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก รวมทั้งโรงบำบัดขยะขนาดเล็ก Omni Processor ซึ่งขณะนี้พร้อมขายให้กับหน่วยงานเทศบาลและเอกชน
นวัตกรรมสุขาพลังไซโคลนของ SCG Chemicals จากประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1ใน 4 นวัตกรรมสุขาแห่งอนาคต และถูกประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “Reinvented Toilet Expo” ครั้งนี้ด้วย
ขอเชิญอ่านบทความ SCG เปิดตัว “ต้นแบบระบบสุขาปลอดเชื้อแห่งแรกในไทย” นวัตกรรมเพื่อสุขอนามัยของประชาชน
https://techsauce.co/pr-news/scg-chemicals-new-toilet-model-for-people
บิล เกตส์ โชว์ขวดที่มีอุจจาระของมนุษย์ ในงาน Reinvented Toilet Expo ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงการสุขาภิบาล (youtube)
” บิล เกตส์ คุณเยี่ยมมาก! ถือ “ขี้” มาโชว์ต่อสาธารณะชน ชอบๆ ไม่เคยพบเคยเจอคนแบบนี้ อยากให้คุณลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจัง! “
บิล เกตส์ (Bill Gates) มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ได้ขึ้นเวทีเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ ในระหว่างนั้น บิล เกตส์ ได้โชว์ขวดแก้วใสที่เต็มไปด้วย “อุจจาระของมนุษย์” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงด้านสุขอนามัย เขากล่าวว่าในขวดนี้อาจมีโรตาไวรัส (rotavirus) จำนวน 200 ล้านล้านตัว, แบคทีเรียชิเกลล่า (Shigella bacteria) 20 พันล้านตัว และไข่พยาธิอีก 100,000 ตัว นี้คือสิ่งที่เด็กๆกำลังเผชิญอยู่ตลอดเวลาเมื่อพวกเขาออกไปเล่นกับเพื่อนๆ การสุขาภิบาลที่ไม่ดีส่งผลให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบเสียชีวิต 525,000 คนทุกๆปี และเสียค่าใช้จ่ายทั่วโลกกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีสำหรับค่ารักษาพยาบาลและรายได้ที่หายไป เราต้องช่วยกันหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของกับโรคทางเดินอาหาร อันจะนำมาซึ่งความตายและการขาดสารอาหาร
หมายเหตุ: ไวรัสโรต้าเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการอุจจาระร่วงได้ ส่วนแบคทีเรียชิเกลล่าทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงที่เรียกว่าโรคบิด
ในงานเอ็กซ์โปครั้งนี้ บิล เกตส์ ได้เปิดตัวห้องน้ำแห่งอนาคตจำนวน 20 แบบ ทั้งหมดทำงานโดยไม่ต้องใช้น้ำหรือเชื่อมต่อท่อระบายน้ำ แต่ใช้สารเคมีในการเปลี่ยนของเสียของมนุษย์ให้กลายเป็นปุ๋ย อันเป็นผลิตผลงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิบิล & เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ซึ่งห้องสุขา 20 แบบนี้อยู่ในพอร์ตการลงทุนของมูลนิธิ ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตเชิงพาณิชย์แล้ว พร้อมสำหรับการผลิตและการจำหน่าย
นอกจากนี้ในงาน บิล เกตส์ ยังได้แชร์แผนการลงทุนเพิ่มเติมอีก 200 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรับห้องสุขารุ่นต่อไปเช่นนี้ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมีระบบท่อระบายน้ำ บิล เกตส์ กล่าวว่าขั้นตอนต่อไปของโครงการคือ การสร้างแนวคิดให้กับผู้ผลิต โดยเขาคาดว่าตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ห้องสุขาจะมีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
มหาเศรษฐียังยกย่องระบบการค้าโลกาภิวัตน์และเสรีที่ทำให้เทคโนโลยีห้องสุขาเป็นไปได้ โดย บิล เกตส์ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในการให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเชื่อว่าระบบการค้าเสรีทำให้ทุกประเทศสามารถสร้างสิ่งที่ดีที่สุดได้ ส่วนประกอบของส้วมนี้ผลิตในประเทศจีน ในประเทศไทย ในสหรัฐอเมริกา คุณต้องนำ IQ ทั้งหมดนั้นมารวมเข้าด้วยกันเพื่อได้เป็นส่วนผสมที่ลงตัว
The Script – Superheroes
Bill Gates! You are my Superhero. ยูแปลงร่างจากมหาเศรษฐีใส่สูท มาเล่นกับขยะของเสียของมนุษย์!! Suuuuuuperb!!!! Cheer!
โรงบำบัดน้ำเสีย Omni Processor เปลี่ยน “อุจจาระ” เป็นน้ำดื่ม พลังงานไฟฟ้า และปุ๋ย
en.wikipedia.org
โรงงานบำบัดน้ำเสียที่เรียกว่า Omni Processor อีกโครงการหนึ่งของมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) จุดประสงค์ของเครื่องนี้ก็เพื่อการปรับปรุงการสุขาภิบาลในประเทศยากจน ช่วยเหลือผู้คน 783 ล้านคนที่อาศัยอยู่โดยไม่มีน้ำสะอาดและเกือบ 2.5 พันล้านคนที่ไม่มีสุขอนามัยที่เพียงพอ Omni Processor ได้รับการออกแบบและสร้างโดย Janicki Bioenergy บริษัทวิศวกรรมของเมือง Seattle นวัตกรรมนี้รวมการผลิตพลังงานและการสุขาภิบาลเข้าด้วยกัน อันเป็นกุญแจสำคัญในการใช้พลังงานสะอาด (clean energy) ในประเทศยากจน
Omni Processor (youtube)
ในวีดิโอ บิล เกตส์ (Bill Gates)ได้เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของ Janicki เพื่อตรวจสอบโรงงานบำบัดน้ำเสีย Omni Processor ก่อนเริ่มโครงการนำร่องในประเทศเซเนกัล ทวีปแอฟริกา เขายืนอยู่ต่อหน้าเครื่องจักรใหม่ขนาดยักษ์ที่สามารถเปลี่ยนของเสียของมนุษย์ (อุจจาระ) ให้กลายเป็นน้ำดื่มที่สะอาดภายในไม่กี่นาที Peter Janicki วิศวกรผู้คิดค้นการทำงานของเครื่องนี้เติมน้ำใสๆจากเครื่องจักรใส่ในแก้วของบิล เกตส์ และเขายกจิบโดยไม่ลังเลแม้นแต่น้อย เพื่อพิสูจน์ความสะอาดและปลอดภัยของน้ำที่ได้จากโรงบำบัดน้ำเสีย เขาเขียนบรรยายในบล็อกของเขาว่า ” น้ำรสชาติดีเท่าที่ผมเคยดื่มจากน้ำขวด และเมื่อผมศึกษาด้านวิศวกรรมแล้ว มันมีความปลอดภัย ผมจะดื่มมันอย่างมีความสุขทุกวัน “
บิล เกตส์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ในหลายๆที่ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย บางที่รถดูดส้วนขนอุจจาระไปทิ้งลงในแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุด บางที่เปลี่ยนขยะให้เป็นของแข็งแล้วเก็บไว้ในทะเลทราย บางที่ใช้พลังงานจำนวนมากในการกำจัดขยะ เช่น เผาขยะด้วยน้ำมันดีเซลหรือน้ำมันอื่นๆ ซึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ โรงบำบัดน้ำเสีย Omni Processor จะมาแก้ปัญหานี้ มันเป็นที่จัดการของเสียจากมนุษย์ (อุจจาระ) ที่ปลอดภัย ของเสียของมนุษย์จะถูกเผาอย่างปลอดภัย เครื่องทำงานที่อุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่มีกลิ่นเหม็น มันเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดการปล่อยมลพิษที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ
อุจจาระ คือ กากอาหารส่วนที่เหลือใช้ หรือที่ร่างกายไม่ต้องการ อุจจาระประกอบด้วย น้ำประมาณ 75 %และของแข็ง 25%
Omni Processor เป็นการทำงานร่วมกันของ โรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ, เตาเผาขยะ และระบบการกรองน้ำ ขั้นตอนการทำงานเป็นดังนี้ สิ่งปฎิกูลจะถูกป้อนเข้าเครื่องจักรและถูกต้มที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสในท่อขนาดใหญ่ เพื่อแยกส่วนที่เป็นไอน้ำและส่วนที่เป็นอุจจาระแห้ง ไอน้ำจะเคลื่อนผ่านระบบทำความสะอาดที่ใช้ไซโคลนและตัวกรองหลายตัวเพื่อกำจัดอนุภาคที่เป็นอันตราย และในที่สุดจะควบแน่นเป็นน้ำบริสุทธิ์เหมือนน้ำกลั่น ส่วนอุจจาระแห้งจะถูกส่งไปที่เตาเผาขยะ ที่นี้พวกมันจะถูกเผาไหม้เพื่อผลิตไอน้ำแรงดันสูง ไอน้ำที่ได้จะไปขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าออกมา พลังงานไฟฟ้าที่ได้มากเพียงพอสำหรับใช้ในการทำงานของ Omni Processor ส่วนที่เหลือจะถูกส่งเข้าสู่ชุมชน ส่วนขี้เถ้าปลอดเชื้อที่เป็นผลมาจากการเผาก็สามารถนำไปใช้ทำปุ๋ย
Omni Processor รุ่นต่อไป จะสามารถเปลี่ยนสิ่งปฏิกูลที่มาจากคน 100,000 คน ให้เป็นน้ำดื่มสะอาดปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์ได้มากถึง 86,000 ลิตรต่อวัน และผลิตพลังงานไฟฟ้าสุทธิ 250 กิโลวัตต์ต่อวัน Omni Processor ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับสิ่งที่ต้องทำเมื่อน้ำจืดและพลังงานขาดแคลนในอนาคต และมันมีขนาดไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับระบบบำบัดน้ำเสียทั่วๆไป ทำให้เลือกสถานที่ในการติดตั้งได้ง่าย
บิล เกตส์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรงบำบัดน้ำเสีย Omni Processor มีราคาอยู่ที่ 1.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 49 ล้านบาท) เป้าหมายของมูลนิธิ คือ การทำให้ Omni Processor มีราคาถูกเพียงพอที่ผู้ประกอบการในประเทศกำลังพัฒนา ให้สามารถลงทุนในธุรกิจการบำบัดของเสียได้ มันเป็นเครื่องที่ทำกำไรมาก เนื่องจากระบบการทำงานรวดเร็ว ผู้ประกอบการจะมีรายได้จากการจัดการกับสิ่งปฎิกูล ขายกระแสไฟฟ้า ขายน้ำดื่ม และขายขี้เถ้า