Newsletter subscribe

Artificial Intelligence, Innovation

จริงหรือไม่ที่ Google กำลังสร้าง AI ให้กลายเป็น Skynet#3 Mobile Applications

Posted: 08/09/2020 at 16:00   /   by   /   comments (0)

ลขาอาจตกงานเมื่อ AI โทรนัดหมายแทนคนได้

เราคงคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้วสำหรับ Google Assistant บนมือถือของเรา ซึ่ง Google ได้เปิดตัวในปี 2016 และมีการปรับปรุงพัฒนาเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเดือน พ.ค. 2018 ในงาน I/O Conference นาย Sundar Pichai (ชาวอินเดีย) Google CEO ได้เปิดตัว AI (ปัญญาประดิษฐ์, Artificial Intelligence) เลขาผู้ช่วยตัวใหม่ที่มีความสามารถล้ำกว่า Google Assistant อย่างมากทีเดียว นั่นคือ Google Duplex ซึ่งเป็น AI ที่สามารถรองรับความซับซ้อนของภาษาได้ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม สามารถเลียนเสียงของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และใช้บทสนทนาในชีวิตจริงของมนุษย์

Google Duplex มีความสามารถโทรไปคุยกับคนอื่นแทนเราได้เพื่อทำการนัดหมาย เช่น โทรไปจองคิวตัดผมให้เรา หรือโทรไปจองโต๊ะอาหารให้เราเป็นต้น ซึ่งผู้ที่สนทนาด้วยไม่มีทางรู้เลยว่ากำลังคุยกับ AI

นี้เป็นวิดีโอสาธิตที่ Sundar Pichai ได้แนะนำการทำงานของ Google Duplex น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียวจากวีดีโอ น้ำเสียงของ AI ไพเราะกว่าคนเสียอีก แถมยังทำเสียง อืมฮึ อืม อา หลอกคนได้เนียนมาก 555

 

Google Duplex: A.I. Assistant Calls Local Businesses To Make Appointments

 

อย่างก็ตามได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตามมาหลังการเปิดตัว Google Duplex ผู้คนไม่รู้สึกตลกที่ Google ใช้ AI มา “หลอก” คนในการคุยกัน และการสนทนานั้นจะถูกบันทึกด้วย  ซึ่งต่อมา Google ได้ให้คำมั่นว่า Google Duplex จะแนะนำตัวเองก่อนในการเริ่มสนทนา และมีการแจ้งเตือนว่าการสนทนาจะถูกบันทึก

หนึ่งเดือนต่อมาในเดือนมิถุนายน 2018  Google ได้สาธิตการทำงานของ Google Duplex เวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่อีกครั้งที่ ร้านอาหารไทยในเมือง Manhattan ในครั้งนี้ AI ของ Google Duplex ได้แนะนำตัวเองในการเริ่มสนทนา “ I’m Google’s automated booking service so I’ll record the call”  “ฉันเป็นการบริการนัดหมายแบบอัตโนมัติของ Google และฉันจะบันทึกการสนทนาด้วย” ถ้ามนุษย์ที่เป็นผู้รับไม่ต้องการให้มีการบันทึกการสนทนา การโทรก็จะถูกตัดไป  

สาเหตุที่ Google Duplex จะต้องทำการบันทึกการสนทนา เพราะต้องส่งบทสนทนาไปยังคลาวด์ (Cloud) สำหรับการแยกวิเคราะห์โดยปกติการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อใช้ส่วนบุคคลนั้นไม่เป็นปัญหาอะไร แต่จะเกิดปัญหาทางข้อกฎหมายหากมีการนำบทสนทนาไปให้บุคคลที่สามโดยที่เราไม่ยิมยอม ดูเหมือนว่านี่อาจเป็นอีกกรณีหนึ่งที่กฎหมายจะต้องตามให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน

 

 

Maroon 5 – Payphone   สมัยก่อนเราโทรจาก Payphone (ตู้โทรศัพท์) สมัยนี้ AI โทรให้

 

 

androidcentral.com

เดือนธันวาคม 2018 Google ได้เริ่มให้ผู้ใช้ Google Pixel (Smartphone ที่ออกแบบโดย Google) ทำการทดสอบการใช้ Google Duplex ซึ่ง Google ได้เลือกเมือง 4 เมืองสำหรับการทดสอบนี้ คือ New York, San Francisco, Atlanta และ Phoenix และ Google Duplex จะให้บริการโทรนัดหมายเฉพาะแต่กับร้านอาหารในระยะแรกของการทดสอบการใช้นี้ 

มีการทำสงครามต่อสู้กันของ 3 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในการพัฒนาและเปิดตัว AI Chatbots (AI ที่พูดคุยสนทนาได้) ได้แก่ Google Duplex ของ Google, Alexa ของ Amazon และ Siri ของ Apple ซึ่ง AI ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนหนึ่งเลขาผู้ช่วยของมนุษย์ทั้งสามตัวนี้ มีคุณสมบัติเหมือนกันหลายประการ แต่ก็มาพร้อมกับข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซอฟต์แวร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ (Intelligent software assistant) ทั้งหมดนี้ เป็นซอฟต์แวร์ไม่มีใครสามารถติดป้ายว่าดีที่สุดหรือเหมาะที่สุดได้ การเกิดขึ้นและการพัฒนาของเทคโนโลยีมีมาตลอดเวลาและไม่สิ้นสุด

 

eiosys.com 

Amazon ได้เปิดตัว Alexa ผู้ช่วยอัจฉริยะซึ่งเป็น Voice AI มาตั้งแต่ปี 2014 โดยเริ่มแรกอยู่ในรูปทรงกระบอกคล้ายลำโพง

 

 

techcrunch.com

Apple กำลังแนะนำ “ Siri ” ซึ่งเป็น AI iPhone  ซึ่ง Siri มีการพัฒนามายาวนาน Apple เปิดตัว Siri ครั้งแรกในปี 2011

 

ระบบการแปลภาษา GNMT

Youtube.com

เมื่อปี 2016 Google ได้เปิดตัว Google Neural Machine Translation (GNMT) ซึ่งเป็นระบบการแปลภาษาแบบ neural network ที่ใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้องใน Google Translate โดยการพัฒนาระบบ GNMT นี้ AI จะเรียนรู้จากตัวอย่างที่ถูกป้อนให้หลายล้านตัวอย่าง “learns from millions of examples” AI จะเรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนได้เป็นการแปลภาษาที่สละสลวยเป็นธรรมชาติออกมา

จากรูปแบบเดิมที่แยกคำแปลเป็นคำๆแล้วนำความหมายมารวมกัน โดยระบบใหม่นี้จะช่วยให้แปลให้ตรงกับความหมายที่สุด จากนั่นจะจัดเรียงและปรับให้ตรงหรือใกล้เคียงภาษาพูดให้มากที่สุดด้วย ทำให้บทความที่ได้รับการแปล อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น

 

Technologia.mediatelecom.com

ปัญหาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คือเวลาเห็นป้ายข้อความในภาษาต่างประเทศ ไม่รู้อ่านว่ายังไง แต่ต่อไปนี้เราไปเที่ยวประเทศไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงทางหรือสั่งอาหารไม่ได้แล้ว เพราะแค่พก Smartphone ที่มีแอพพลิเคชั่น Google Translate ไปไหนมาไหน เราก็เที่ยวได้อย่างสบายใจ เพียงเอากล้องใน Smartphone ไปส่องตามตัวหนังสือที่ป้ายหรือกระดาษ มันจะแปลคำหรือประโยคที่อยู่บนป้ายหรือกระดาษนั้นๆออกมาเป็นภาษาที่เราตั้งค่าไว้ทันทีเลย

 

 

dmit.co.th

เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 Google Translate เริ่มใช้ AI แปลภาษาในโหมด Offline ระบบ Machine Learning จะช่วยแปลภาษาให้เราเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อ Internet และยังคงมีความถูกต้องแม่นยำใกล้เคียงกับ Google Translate ในยามที่เชื่อมต่อ Internet ซึ่งการแปลภาษาแบบ Offline นี้สามารถรองรับได้ถึง 58 ภาษารวมทั้งภาษาไทยด้วย

แม้จะมีความแม่นยำที่ดีขึ้น แอพนี้ก็ไม่ได้ต้องการโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพมากมาย แต่ละภาษากินความจุเพียง 30MB ถึง 40MB แอพพลิเคชั่นนี้ทำงานในโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพต่ำสุดปัจจุบันนี้ Google Translate โหมด Offline นี้ มีให้บริการสำหรับผู้ใช้เพียง 1% ณ วันนี้ แต่ Google คาดหวังว่ามันจะเพิ่มเป็น 99% ในอนาคต 

นอกจากนี้ Google ยังมีแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Thing Translator ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถตรวจจับวัตถุที่เราต้องการตรวจสอบผ่านกล้องถ่ายรูปใน Smartphone วิธีใช้เพียงนำ Smartphone ไปตรวจจับที่วัตถุ แล้วแอพนี้จะแสดงผลเป็นภาษาต่างๆที่เราตั้งค่าไว้

 

 theverge.com

 

 

David Guetta ft. Zara Larsson – This One’s For You

  

 

Google Lookout แอพพลิเคชั่นช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา

Vaaju.com

Google พยายามที่จะช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาหรือคนที่มีความบกพร่องทางสายตา 253 ล้านคนทั่วโลก ในงาน I/O Conference 2018 Google ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ที่เรียกว่า Google Lookout ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา โดยใช้ AI ใน Smartphone บอกถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัว เช่น บอกถึงสิ่งกีดขวางในเส้นทางเดิน หรือ เพื่อนำทางพวกเขาไปยังบ้าน สำนักงาน ลิฟต์ เป็นต้น

Engadget.com

หลักการทำงานของ Google Lookout คือ จะใช้สองเทคนิคทำงานร่วมกัน คือ การตรวจจับภาพโดยกล้องของ Smartphone และ AI โดย AI จะบอกให้ผู้พิการทางสายตาทราบถึงสิ่งที่กล้องของ Smartphone จับภาพอยู่ว่าคืออะไรนอกจากนั้น ยังสามารถเลือกโหมดการใช้งานได้ด้วย ซึ่ง AI ของแต่ละโหมดจะเลือกและพูดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ เช่น ถ้าอยู่บ้าน AI จะเลือกบอกตำแหน่งของเครื่องใช้ในบ้าน แต่ถ้าเป็นที่ทำงาน AI จะเลือกค้นหาลิฟต์ หรือเตือนว่ามีเก้าอี้อยู่ในตรงทางเดิน เหมือนในภาพข้างล่าง นอกจากนี้ Google Lookout ยังสามารถอ่านตัวหนังสือ เช่น อ่านตัวหนังสือแสดงทางออกที่ติดอยู่เหนือประตูได้และที่สำคัญที่สุดของแอพพลิเคชั่นนี้ก็คือสามารถทำงานได้แบบออฟไลน์

 

Blog.google

วิธีใช้ แค่ใช้มือเคาะที่หลังโทรศัพท์ Google Lookout ก็จะทำงานได้เลย ระหว่างใช้งานก็แนะนำให้เอาโทรศัพท์ใส่ในเคสพร้อมสายคล้องคอแบบในภาพ เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

 

 

 

 

John Newman – Come And Get It

 

 

Google Photos ใช้ พลัง AI ในการปรับแต่งภาพและแชร์ภาพ

สำหรับผู้ใช้ มือถือ Android และ iOSคงรู้จัก Google Photos เป็นอย่างดี เพราะทุกเครื่องจะแนบแอป Google Photos มาให้ด้วยเลย Google Photos ถูกเปิดตัวเมื่อปี 2015 ล่าสุดในงาน Google I/O 2018 เมื่อเดือนพฤษภาคม CEO ของ Google นาย Sundar Pichai (ชาวอินเดีย) ได้แนะนำอัปเดตครั้งใหญ่ของ Google Photos ที่มาพร้อมกับ AI (a new AI-powered version of Google Photos)

มีผู้ใช้ Google Photos ในการปรับแต่งภาพประมาณ 5 พันล้านภาพต่อวัน Google ได้นำเทคโนโลยี AI จะช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่ง แก้ไข รูปถ่ายของพวกเขา ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาได้มาก เนื่องจากสามารถแก้ไขรูปภาพได้ในคลิกเดียว

  

Google Photos ใช้ AI ในการแชร์รูปถ่าย

 

petapixel.com

เพื่ออำนวยความสะดวกในการแชร์ภาพ นายพิชัยแสดงตัวอย่างภาพในงานแต่งงาน AI จะจดจำคนในรูปภาพเหล่านั้น จากนั้น Google Photos จะแนะนำให้ส่งภาพถ่ายเหล่านั้นไปยังบุคคลนั้นด้วยการกดคลิกเพียงครั้งเดียว  โดยไม่ต้องพิมพ์อีเมล เพราะ AI รู้ว่าคนในรูปคือใคร 

 

Google Photos ตรวจพบรูปขาวดำ จะให้คำแนะนำให้เติมสีโดยอัตโนมัติ

 petapixel.com

เมื่อ Google Photos ตรวจพบรูปขาวดำ แอพจะให้คำแนะนำให้เติมสีโดยอัตโนมัติ จากรูปบนจะเห็นว่า สามารถเติมสีให้สวยยิ่งขึ้นได้เพียงแค่ปุ่มเดียว! 

 

Google Photos สามารถเปลี่ยนพื้นหลังของภาพเป็นขาวดำ

 

 petapixel.com

 AI ยังช่วยให้เราสามารถทำการเปลี่ยน background ของภาพเป็นขาวดำ และในขณะเดียวกันก็รักษาความโดดเด่นของรูปภาพสี จากภาพข้างบน จะเห็นว่า AI ทำให้สีของหญ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา แต่ตัวเด็กยังมีสีสัน

 

Google Photos ช่วยปรับความละเอียดของรูปให้คมชัดยิ่งขึ้น

dailygizmo.tv

บางครั้งเรา search หารูปใน Google แล้วเจอรูปที่ความละเอียดต่ำจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร Google Photos ใช้ AI มาช่วยปรับความละเอียดของรูปให้คมชัดยิ่งขึ้น

 

Google Photos ช่วยปรับความมืดความสว่างของภาพ

 petapixel.com

 ถ้า Google Photos ตรวจพบว่าภาพนั้นมืดหรือสว่างเกินไป เราจะได้รับคำแนะนำในการแก้ไขความมืดหรือความสว่างโดยอัตโนมัติ โดยแค่แตะเพียงคลิกเดียว

นอกจากการปรับแต่งรูปภาพได้แล้ว อีกฟีเจอร์ใหม่ที่ดีมากๆ เมื่อเราถ่ายภาพเอกสารสามารถทำการบันทึกเป็นไฟล์ PDF ได้ด้วย ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องไปเสียเวลาสแกนรูปภาพเป็นไฟล์ PDF ให้ยุ่งยากอีกต่อไป

นอกจากนี้ Google ได้พัฒนา AI ให้เลียนแบบขั้นตอนการทำงานของช่างภาพมืออาชีพ โดยให้ AI ศึกษาภาพถ่ายพารานอมาของสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติชื่อดังทั่วโลกที่ถูกถ่ายโดยดาวเทียมจาก Google Street View กว่า 40,000 ภาพ แล้วค้นหาองค์ประกอบที่ดีที่สุดจากนั้นดำเนินการประมวลผลข้อมูลต่างๆเพื่อสร้างภาพสวยงามเสมือนจริงออกมา ภาพที่ได้ออกมาสวยงามราวกับถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ ถือได้ว่า AI สร้างสรรค์งานออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว

 

 รูปล่างเป็นภาพถ่ายจาก Google Street View รูปบนเป็นภาพที่ได้จาก AI

 รูปล่างเป็นภาพถ่ายจาก Google Street View รูปบนเป็นภาพที่ได้จาก AI

 ai.googleblog.com

 

เมื่อปี 2015 AI ของ Google Photos เคยพาซวย เกือบทำให้ Google โดนข้อหาเหยียดสีผิว   เมื่อ AI ของ Google Photos ไปแท็กภาพคนผิวสีเป็นลิงกอริลล่าแทน

หลังจากโดนด่าไปเรียบร้อยแล้ว Google รีบออกมาขอโทษคู่กรณี และสัญญาว่าจะรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันที

 

แต่หลังจากผ่านไป มีผู้ไปพบว่า Google ไม่ได้แก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เพียงแค่บล็อกไม่ให้ AI ของ Google Photos วิเคราะห์ภาพลิงกอริลล่าและลิงชิมแปนซี

 

 

Ed Sheeran – Photograph